ความท้าทายทางการตลาด
ทุกวันนี้ ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากมายเมื่อทำการเลือกซื้อสินค้า การที่จะเอาชนะคู่แข่ง เจ้าของธุรกิจจึงต้องพยายามมากเป็นพิเศษเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า บทความนี้เป็นความท้าทายทางการตลาดครั้งยิ่งใหญ่สำหรับผู้ขายออนไลน์และเจ้าของแบรนด์
ด้วยอินเทอร์เน็ตและแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซมีความสำคัญต่อโลกในยุคปัจจุบันนี้ ผู้ค้าปลีกออนไลน์ได้เติบโตขี้นอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนมากผู้บริโภคสามารถหาข้อมูลได้อย่างง่ายดายในการเลือกซื้อสินค้า เช่น การอ่านรีวิวจากผู้ใช้จริง และ ดูวีดีโอสินค้า ก่อนจะทำการสั่งซื้อสินค้า
จากการรีวิวของผู้บริโภค วีดีโอแกะกล่องสินค้า และการทำคอนเท้นได้กลายเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ หลายแบรนด์สินค้าต้องเผชิญกับยอดขายที่ลดลงเนื่องจากเหตุผลบางอย่าง เช่น สินค้าลอกเลียนแบบ การขายตัดราคา การจัดการกับสต็อกสินค้าที่ไม่ดี ไม่สามารถเก็บข้อมูลทางการตลาด และการไม่รู้จักลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ทำให้จัดการธุรกิจของคุณยากมากขึ้น

สินค้าลอกเลียนแบบ
ปัจจุบันการปลอมแปลงสินค้าเป็นปัญหาที่สำคัญที่สุดสำหรับเจ้าของแบรนด์และผู้บริโภค ในฐานะเจ้าของแบรนด์ การปลอมแปลงสินค้าส่งผลกระทบต่อรายได้ของธุรกิจทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมไปถึงสินค้าปลอม หรือสินค้าอุปโภคบริโภคปลอมเหล่านี้ ยังก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพ อาการแพ้ และความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้และผู้บริโภคโดยตรง
ยกตัวอย่างเช่น : การปลอมแปลงสินค้าถือเป็นธุรกิจที่ผิดจรรยาบรรณ สร้างผลกำไร มีความเสี่ยงต่ำ และให้ผลตอบแทนสูง โดยไม่ต้องเสียเงินทำการตลาดใดๆทั้งสิ้น
สินค้าลอกเลียนแบบจะแพร่กระจายออกสู่ท้องตลาดอย่างรวดเร็วเนื่องจากราคาที่ถูกกว่าเป็นที่น่าดึงดูดใจ ร้านค้าออนไลน์เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่มักจะมีสินค้าปลอมไปขาย และหลอกลวงผู้บริโภคได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังสามารถหลีกเลี่ยงการตรวจพบได้ โดยการขายผ่านหลากหลายเว็บไซต์และหลายแพลตฟอร์ม

การขายตัดราคา
กระบวนการของการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้องและตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ไม่ได้เกิดขึ้นมาได้ง่ายๆ การรวมกันของแคมเปญการตลาดที่มีประสิทธิภาพ การส่งเสริมการขายที่เหมาะสมและรางวัลที่น่าสนใจเพื่อดึงดูดตัวแทนจำหน่ายและผู้ขายในธุรกิจมากขึ้น ซึ่งหมายถึงรายได้ของธุรกิจและแบรนด์สินค้าของคุณเติบโตมากยิ่งขึ้นเช่นกัน
เมื่อธุรกิจเติบโตขึ้น จะมีตัวแทนจำหน่ายบางรายทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้กำไรที่สูงกว่าตัวแทนคนอื่นๆในตลาด ตัวแทนจำหน่ายที่แข็งแกร่งมีแนวโน้มที่จะได้เปรียบด้านราคา มากกว่าตัวแทนจำหน่ายรายใหม่ เนื่องจากความถี่ของคำสั่งซื้อจำนวนมากๆต่อเดือน ตัวแทนจำหน่ายรายไหน ที่มีสต็อคสินค้าในปริมาณมากมีแนวโน้มจะขายสินค้าในราคาที่ต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับราคาขายปลีกในตลาด ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติเพราะตัวแทนจำหน่ายนี้ต้องการหมุนเวียนเงินสดที่ดีกว่า เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น ราคาของผลิตภัณฑ์จะแตกต่างกันไปตามตลาด สิ่งนี้จะเรียกว่า การขายตัดราคา
การขายตัดราคาเกิดขึ้นได้กับหลายอุตสาหกรรมและทั่วภูมิภาค จะเกิดผลกระทบร้ายแรงในระยะยาวสำหรับเจ้าของธุรกิจ ชื่อเสียงของแบรนด์และรายได้ จะมีผลกระทบจากการขายตัดราคา ตัวแทนจำหน่ายที่ซื่อตรงอาจลดลงหากพวกเขาตัดสินใจลาออก เจ้าของธุรกิจและเจ้าของแบรนด์ต้องจัดการเรื่องนี้ด้วยความจริงใจ และ Packtica คือผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้

ความภักดีของผู้บริโภคส่งผลต่อกำไรในระยะยาว
แนวทางในการขายสินค้าที่เจ้าของธุรกิจนิยมทำคือ การขายสินค้าในราคาที่ถูกลง หรือการให้ส่วนลดมากๆ เพื่อดึงดูดให้ลูกค้ามาซื้อสินค้ามากขึ้น โดยไม่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้าจากการซื้อสินค้า ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งการเก็บรวบรวมข้อมูลลูกค้าเป็นปัจจัยหลักในการรักษาลูกค้าให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ แก้ไขปัญหาให้ลูกค้าได้ทันเวลา บางลูกค้าอาจจะประสบปัญหากับการสั่งสินค้าที่ไม่ดีแต่ไม่สามารถที่จะติดต่อขอรับการแก้ไขปัญหาได้ ทำให้เกิดอคติต่อสินค้าและแบรนด์ จึงมีการลงความเห็นที่ไม่ดีในทางออนไลน์ ทำให้เกิดผลกระทบทางด้านลบและส่งผลเสียระยะยาวต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์
การตลาดแบบตัวต่อตัว คือการทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ และภักดีต่อแบรนด์สินค้าในระยะยาว การตลาดแบบตัวต่อตัวนี้ เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ทางบริษัทจะใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าและเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อเป็นตัวกลางในการสื่อสารบอกโปรโมชั่น และการนำเสนอผลิตภัณฑ์ ไปยังผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกต้อง
ความท้าทายสำหรับเจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่ในตลาดปัจจุบันคือการปรับเทคโนโลยีให้เข้ากับรูปแบบโครงสร้างทางธุรกิจทั้งหมด ความรับผิดชอบทางกฎหมาย การลงทุนใช้ระบบรวบรวมข้อมูลลูกค้า จะส่งผลดีต่อความภักดีของลูกค้าในระยะยาวอย่างมาก Packtica เรามีวิธีแก้ปัญหาที่ไม่เหมือนใคร เพื่อช่วยให้เจ้าของธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโตขึ้นไปสู่อีกระดับหนึ่ง

การตรวจสอบย้อนกลับ
ความสามารถในการตรวจสอบย้อนกลับของผลิตภัณฑ์ คือ การระบุตำแหน่ง การตรวจสอบและติดตามสินค้าตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตจนถึงการผลิตเสร็จ สำหรับเจ้าของธุรกิจ SME และเจ้าของแบรนด์ ส่วนใหญ่ มักคิดว่าจำเป็นจะต้องใช้พนักงานเป็นจำนวนมาก พร้อมกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นสูงในการดำเนินการนี้
ฟังก์ชันในการติดตามสินค้านี้ ช่วยให้องค์กรสามารถติดตามความคืบหน้าของผลิตภัณฑ์ได้อย่างใกล้ชิดตลอดกระบวนการผลิต (บางครั้งจากโรงงานที่รับผลิตเลย) และไปจนถึงผู้บริโภคขั้นสุดท้ายที่ซื้อสินค้า การติดตามช่วยให้องค์กรค้นพบที่มาและประวัติข้อมูลความเป็นมาของผลิตภัณฑ์
การขาดการตรวจสอบย้อนกลับของสินค้า ทำให้เราไม่สามารถติดตามข้อมูลของสินค้าได้ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นจะทำให้เราสูญเสียกำไรไปโดยที่ไม่รู้ว่า เกิดขึ้นตอนไหน ที่ไหน และเมื่อไหร่